เอ็ด วู้ดเวิร์ด รองประธานฝ่ายบริหารทีมปีศาจแดงได้เผยถึงกระบวนการของทีมแมวมองแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และชี้แจงรายละเอียดว่าทางสโมสรดำเนินการในตลาดซื้อขายนักเตะกันอย่างไร
วู้ดเวิร์ดเพิ่งเซ็นสัญญากับ มัตเตโอ ดาร์เมียน, เมมฟิส เดปาย, มอร์แกน ชไนเดอร์ลิน และ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ มาในช่วงซัมเมอร์นี้ ซึ่งกว่าจะได้ตัวนักเตะเป้าหมายเหล่านี้ก็ต้องใช้เวลา และเขาก็ได้เปิดเผยถึงการคัดรายชื่อนักเตะในแต่ละตำแหน่ง ก่อนที่จะมีการคว้าตัวเข้ามา
เมื่อถูกถามถึงความคืบหน้าในตอนนี้ เขาได้กล่าวผ่านทางการสัมภาษณ์สุดพิเศษกับ MUTV ว่า “มันกำลังเดินหน้าอยู่เรื่อยๆ เรามีเครือข่ายทีมแมวมองไปทั่วโลก ในหลายประเทศนั้น แมวมองจะเข้าไปชมเกม และนำข้อมูลมาให้กับเรา ซึ่งเราก็จะมีลิสต์นักเตะเป้าหมายว่าใครคือคนที่เราคิดว่าน่าจะเข้ากับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และสามารถช่วยทีมได้ จากนั้นก็นำลิสต์ดังกล่าวมาปรึกษากับ หลุยส์ (ฟาน กัล) กับทีมสต๊าฟฟ์ของเขา หลังจากนั้นก็จะเข้าสู่ขั้นตอนต่อไป”
“เมื่อหลุยส์ได้เลือกนักเตะเป้าหมายของเขา ซึ่งผมมองว่ามันเป็นเรื่องจำเป็นเสมอที่เราต้องมีเป้าหมายมากกว่า 1 คนสำหรับแต่ละตำแหน่ง เพราะว่าคุณต้องยอมรับว่าบางครั้งคุณอาจไม่ได้เป้าหมายคนแรกด้วยสาเหตุใดๆ ก็ตาม ดังนั้นมันจึงต้องวางแผนด้วยการมองเอาไว้สัก 2 หรือ 3 คน จากนั้นสิ่งที่ผมทำก็คือการเจรจากับทางสโมสร และตัวนักเตะ มันก็ตรงไปตรงมาแบบนี้แหละ แม้ว่าบางทีมันก็ไม่ได้ง่ายเลยก็ตามในแง่ของการเจรจา”
เมื่อตลาดซื้อขายนักเตะปิดตัวลงในช่วงปลายเดือนสิงหาคม การทำงานก็จะเริ่มต้นขึ้นสำหรับเป้าหมายในปี 2016 การวางแผนเหล่านี้คือรากฐานที่จะช่วยให้เรามั่นใจได้ว่ายูไนเต็ดมีกลุ่มนักเตะที่สามารถไล่ล่าคว้าแชมป์ได้
“จะจริงจังกันก็ตอนเดือนกันยายน” วู้ดเวิร์ดตอบ เมื่อถูกถามว่ากระบวนการทั้งหมดจะเริ่มต้นกันเมื่อไหร่ “เมื่อตลาดปิด ทีมแมวมองของคุณก็จะเริ่มมองว่าพื้นที่ใดบ้างที่คุณคิดว่าเป็นจุดอ่อน และกระบวนการทั้งหมดก็จะเริ่มต้นขึ้น ผู้จัดการทีมมีเวลาอีก 4 เดือนกว่าที่จะได้ร่วมงานกับนักเตะคนนั้น (ในเดือนมกราคม) และก็จะเริ่มมองแล้วว่าคนไหนควรจะเข้ามา และคนไหนควรจะต้องออกไป แต่กระบวนการทำงานทั้งหมดมันก็ต้องเริ่มต้นแล้ว”
“ใช่แล้ว มันจำเป็นมาก (สำหรับลิสต์รายชื่อนักเตะ) เพราะว่าเราต้องทำทุกอย่าง นั่นแหละคือสิ่งที่ทีมแมวมองทำกัน มันไม่มีที่สิ้นสุดหรอก เพราะว่าคุณก็จะโฟกัสกันไปถึงการเซ็นสัญญาครั้งหน้าแล้ว ผมเองก็เป็นเหมือนกับแฟนบอลนั่นแหละ เมื่อเราบอกพวกเขาว่าเราเซ็นสัญญานักเตะเข้ามาแล้ว มันก็เป็นช่วงเวลาแห่งความสุข แต่หลังจากนั้นก็จะเริ่มพูดกันแล้วว่าคนต่อไปจะเป็นใคร”
“มันมีงานให้ต้องทำหลายอย่างในแง่ของการเจรจา และมันก็มีข้อจำกัดด้านเวลาด้วย ผมเองชอบที่จะมองย้อนกลับไปในช่วงปิดตลาด ดูว่านักเตะคนไหนได้ลงสนามบ้าง และดูว่าพวกเขาเข้ากับทีมได้มากแค่ไหน”
SiR KeaNo